สรรพคุณช่วยการนอนหลับและฟิ้นฟูผิวคล้ายกันทุกสายพันธุ์
น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ ถูกใช้เพื่อบำบัดอาการและรักษามานานหลายศตวรรษ กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์เป็นที่ชื่นชอบอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ประโยชน์ของน้ำมันลาเวนเดอร์ ถูกใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ คุณสมบัติที่ทำให้สงบและผ่อนคลาย น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์มักถูกใช้ทาผิวเพื่อฟื้นฟูผิว ใช้ผสมน้ำอาบ หรือทาบริเวณขมับและหลังคอเพื่อคลายความเครียด หยดน้ำมันลาเวนเดอร์ 2-3 หยดลงบนหมอน ผ้าปูที่นอน เพื่อผ่อนคลายและเพื่อการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มตลอดคืน ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายของน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ จึงถือเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ต้องมีติดตัวตลอดเวลา
สมุนไพรและเครื่องเทศ
หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า สดชื่นเหมือนยืนอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ และอยากบอกว่าประโยคนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด กลิ่นลาเวนเดอร์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย มีหลายผลิตภัณฑ์และหลายประเภทมราใช้กลิ่นลาเวนเดอร์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขอนามัยและเครื่องสำอาง ด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น และหากคุณสังเกตคอลเลคชั่นน้ำมันหอมระเหยของเรา คุณจะเห็นว่า ZUUUD ซู๊ด น้ำมันหอมระเหยเกรดบำบัด มีน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 2 ชนิด คือ น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ (Lavender Essential Oil) และน้ำมันหอมระเหยสไปค์ลาเวนเดอร์ (Spike Lavender Essential Oil)
ลาเวนเดอร์ (Lavandula Angustifolia) และสไปค์ลาเวนเดอร์ (Lavandula Latifolia) ลาเวนเดอร์ 2 ชนิดมีแหล่งกำเนิดเดียวกัน แต่อะไรที่ทำให้ลาเวนเดอร์ต่างกัน และคุณจะทราบได้อย่างไรว่าลาเวนเดอร์แบบไหนเหมาะกับความต้องการของคุณ? มาดูที่มาและคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ ทั้ง 2 ชนิดกัน
ลาเวนเดอร์ (Lavandula Angustifolia)
ลาเวนเดอร์เป็นพืชสมุนไพร เติบโตที่ระดับความสูงกว่า 2,000 ฟุต และมีดอกลาเวนเดอร์สีม่วงอมฟ้าขนาดเล็กซึ่งให้กลิ่นหอมหวานของดอกไม้ เนื้อหาประกอบด้วย Linalyl acetate อย่างมาก และทำให้เป็นยาต้านแบคทีเรียที่มีประสิทธิภาพสำหรับการติดเชื้อ การอักเสบ และไวรัส นอกจากนี้ ลาเวนเดอร์ ยังนิยมใช้มากกว่า สไปค์ลาเวนเดอร์ (Spike Lavender) เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผล รอยถลอก และแผลไหม้เล็กน้อยได้ดีกว่า แม้ว่า ลาเวนเดอร์ มักจะเป็นตัวเลือกน้ำมันหอมระเหยยอดนิยมในการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและทำให้จิตใจเงียบสงบ
น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ (Lavender Essential Oil)
ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณบำบัดของลาเวนเดอร์
- ช่วยคลายเครียด ลดความวิตกกังวล
- ช่วยบำบัดอาการนอนไม่หลับ
- ช่วยฟื้นฟูผิวเสียจากแสงยูวี
- ช่วยไล่ยุงและแมลงรบกวน
- ช่วยลดอาการปวดหัว
สไปค์ลาเวนเดอร์ (Lavandula Latifolia)
ในทางกลับกัน Spike Lavender เป็นลาเวนเดอร์อีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่เจริญเติบโตในระดับความสูงที่น้อยกว่า ด้วยเหตุนี้ ดอกสไปค์ลาเวนเดอรืจึงมักเป็นโทนสีเทาอมฟ้า ใบและลำต้นจะมีโทนสีไม่เขียวเข้ม ลาเวนเดอร์สายพันธุ์นี้มี ยูคาลิปทอล (eucalyptol) หรือ ซิเนออล (Cineole)* ในระดับที่สูงกว่า สไปค์ลาเวนเดอร์ สารยูคาลิปทอล หรือ ซิเนออล เป็นสารประกอบอินทรีย์ประเภทมอโนเทอร์พีนและอีเทอร์วงแหวน มีสูตรเคมีคือ C10H18O เป็นของเหลวไม่มีสีถึงเหลืองอ่อน มีกลิ่นคล้ายการบูร (กลิ่นซ่าๆ) รสเผ็ด ไม่ละลายน้ำ แต่ผสมเข้ากันได้กับเอทานอล ซึ่งเป็นสารประกอบที่พบในน้ำมันหอมระเหยการบูร น้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ และน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส
เนื่องจากสไปค์ลาเวนเดอร์มีสารประกอบที่คล้ายกับการบูรปริมาณสูง สไปค์ลาเวนเดอร์จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการบรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อย หรือปัญหาระบบทางเดินหายใจ มีคุณสมบัติในการลดอาการคัดจมูก ต้านไวรัส และบรรเทาอาการปวด สำหรับการกระตุ้นทางจิตใจและสมาธิ สไปค์ลาเวนเดอร์ทำงานได้ดีพอๆ กับน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นอื่นๆ ประโยชน์ที่น่าประหลาดใจอีกประการหนึ่ง คือ มาน้ำมันหอมระเหยสไปค์ลาเวนเดอร์มีคุณสมบัติไล่แมลงเหมือนกับน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์
น้ำมันหอมระเหยสไปค์ลาเวนเดอร์ (Spike Lavender Essential Oil)
- ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก ต้านเชื้อไวรัส
- ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ ต้านเชื้อแบคทีเรีย
- ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย
- ช่วยเพิ่มสมาธิและความจำ
- ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว
นอกจากนี้ยังมีลาเวนเดอร์สายพันธุ์อื่นๆอีกประมาณ 27 สายพันธุ์ที่นำมาทำน้ำมันใช้ประโยชน์ ยังมีลาเวนเดอร์อีกสายพันธุ์ที่นำมาใช้ประโยชน์แต่รู้จักกันน้อย คือ ลาเวนดิน Lavandin (Lavandula x intermedia) หรือดัชลาเวนเดอร์ (Dutch lavender) ซึ่งเป็นลูกผสมของ ลาเวนเดอร์ และ สไปค์ลาเวนเดอร์ Lavandin ยังมีลำต้นสามง่ามที่ไม่เหมือนใครในขณะที่อีกสองสายพันธุ์มีลำต้นเพียงต้นเดียว ส่วนประกอบส่วนใหญ่ประกอบด้วยแอลกอฮอล์และเอสเทอร์ ทำให้เป็นส่วนประกอบที่แข็งแรงที่สุดในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และทำให้ร่างกายปลอดจากไวรัสและแบคทีเรีย แต่มีข้อเสียคือ ลาเวนดินไม่มีคุณสมบัติในการบำบัดสงบสติอารมณ์ และการสร้างเซลล์ผิวใหม่
โดยสรุป หากคุณกำลังมองหาน้ำมันที่ช่วยผ่อนคลายหลังจากวันที่ยาวนานจากการทำงาน ให้เลือก น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ (Lavender) และถ้าคุณต้องการกลิ่นที่สดชื่นคล้ายมิ้นท์ให้เลือกน้ำมันหอมระเหยสไปค์ลาเวนเดอร์ (Spike Lavender)